| ทนายความเชียงใหม่ ขอเกริ่นเรื่องก่อนว่า กู้ยืมเงินกัน โดยผู้กู้ได้นำโฉนดที่ดินไปส่งมอบให้กับผู้ให้กู้เพื่อเป็นหลักประกันการกู้ยืมเงิน  เป็นกรณีที่ผู้กู้ได้นำเอกสารสิทธิมาเป็นประกันการชำระหนี้เงินกู้ กรณีเช่นนี้หากผู้กู้ยังไม่ชำระหนี้ก็ไม่มีสิทธิเรียกคืนโฉนดที่ดินจากผู้ให้กู้  ผู้ให้กู้มีสิทธิยึดถือโฉนดที่ดินไว้เป็นประกันการชำระหนี้เงินกู้จนกว่าจะได้รับชำระหนี้คืน โจทก์ฎีกาในข้อสุดท้ายว่า  โจทก์มีสิทธิยึดหน่วงโฉนดที่ดินพิพาทไว้จนกว่าจะได้รับชำระหนี้ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์  มาตรา 241 นั้น เห็นว่า เมื่อข้อเท็จจริงแห่งคดีคดีฟังเป็นยุติว่า  โจทก์เป็นผู้ครอบครองโฉนดที่ดินพิพาททั้งสามฉบับ โดยจำเลยที่ 2 มอบให้ยึดถือเป็นประกันเงินกู้  โจทก์จึงมีสิทธิยึดถือโฉนดที่ดินไว้เป็นประกันการชำระหนี้เงินกู้จนกว่าจะได้รับชำระหนี้คืน  อันเป็นบุคคลสิทธิบังคับกันได้ระหว่างโจทก์ กับจำเลยที่ 2 ในฐานะคู่สัญญาต่อกัน  แม้การที่โจทก์ยึดถือโฉนดที่ดินพิพาททั้งสามฉบับเป็นประกันเงินกู้ที่โจทก์จะได้รับคืน  ซึ่งไม่ได้เป็นคุณแก่โจทก์เกี่ยวด้วยที่ดินโฉนดพิพาททั้งสามฉบับดังกล่าว  กรณีจึงหาใช่สิทธิยึดหน่วงตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 241 ซึ่งหมายถึง การที่ผู้ครอบครองได้โดยมีกฎหมายที่เกี่ยวข้องคือ  ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา ๒๔๑ ผู้ใดเป็นผู้ครองทรัพย์สินของผู้อื่น  และมีหนี้อันเป็นคุณประโยชน์แก่ตนเกี่ยวด้วยทรัพย์สินซึ่งครองนั้นไซร้  ท่านว่าผู้นั้นจะยึดหน่วงทรัพย์สินนั้นไว้จนกว่าจะได้ชำระหนี้ก็ได้แต่ความที่กล่าวนี้ท่านมิให้ใช้บังคับ  เมื่อหนี้นั้นยังไม่ถึงกำหนด           อนึ่งบทบัญญัติในวรรคก่อนนี้  ท่านมิให้ใช้บังคับ  ถ้าการที่เข้าครอบครองนั้นเริ่มมาแต่ทำการอันใดอันหนึ่งซึ่งไม่ชอบด้วยกฎหมาย
 คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 18952/2555 จำเลยทั้งสองเป็นสามีภริยากันและร่วมกันกู้ยืมเงินโจทก์และมอบโฉนดที่ดิน  3  ฉบับ คือ โฉนดที่ดินเลขที่ 22355, 22356 และ 22357  ดังกล่าวให้โจทก์ยึดถือไว้เป็นหลักประกันและหนังสือมอบอำนาจให้แก่โจทก์เพื่อจดทะเบียนจำนองต่อเจ้าพนักงาน  แต่โจทก์มิได้นำเอกสารไปจดจำนอง ภายหลังจำเลยทั้งสองผิดนัดไม่สามารถชำระหนี้ตามที่ตกลงกัน  ในปี 2542 โจทก์และจำเลยทั้งสองตกลงคิดดอกเบี้ยกันใหม่  โดยจำเลยที่ 1 ทำสัญญากู้ให้โจทก์ไว้จำนวน 6,224,562 บาท และจำเลยที่ 2 ยังสั่งจ่ายเช็คให้แก่โจทก์ 1  ฉบับ มีจำนวนเงินในเช็คเท่ากับจำนวนเงินในสัญญากู้เงิน มีจำเลยที่ 1  ลงลายมือชื่อสลักหลัง เมื่อเช็คถึงกำหนดเรียกเก็บเงิน  ธนาคารตามเช็คปฏิเสธการจ่ายเงิน
 |