บันทึกประจำวันถือว่าเป็นหนังสือหย่าหรือไม่ |
---|
การที่สามีภริยาตกลงที่จะหย่าขาดจากกันจึงได้ไปที่สถานีตำรวจเพื่อจัดทำบันทึกประจำวันต่อพนักงานตำรวจ โดยในบันทึกประจำวันระบุว่า สามีภริยาตกลงหย่าร้างกัน โดยคู่สมรสทั้งสองฝ่ายลงลายมือชื่อไว้ และมีพนักงานตำรวจลงลายมือชื่อไว้จำนวน 2 คน ถือว่าเป็นหนังสือหย่าที่สมบุรณ์ หากสามีภริยาไม่ไปดำเนินการหย่าต่อที่ว่าการอำเภอหรือเขตแล้ว อีกฝ่ายหนึ่งสามารถนำหนังสือหย่านี้ไปฟ้องร้องต่อศาลเพื่อให้ศาลพิพากษาศาลให้หย่าขาดจากกันได้ จำเลยให้การขอให้ยกฟ้อง ศาลชั้นต้นพิพากษาให้โจทก์กับจำเลยหย่าขาดจากกัน และให้จำเลยใช้ค่ารถยนต์ยี่ห้อฮอนด้า หมายเลขทะเบียน ชต 6512 กรุงเทพมหานคร ราคา 150,000 บาท แก่โจทก์ และให้จำเลยคืนหรือใช้ราคาแหวนเพชร 40,000 บาท แก่โจทก์ พร้อมดอกเบี้ยอัตราร้อยละ 7.5 ต่อปี ของต้นเงินทั้งสองจำนวนนับแต่วันที่ฟ้องจนกว่าจะชำระเสร็จ ให้จำเลยจ่ายเงินค่าอาวุธปืน 43,262 บาท และค่ารถยนต์จิ๊ป 125,000 บาท แก่โจทก์ พร้อมดอกเบี้ยอัตราร้อยละ 7.5 ต่อปี ของต้นเงินดังกล่าวนับแต่วันฟ้องจนกว่าจะชำระเสร็จ กับให้จำเลยใช้ค่าฤชาธรรมเนียมแทนโจทก์เท่าที่โจทก์ชนะคดี โดยกำหนดค่าทนายความ 3,000 บาท จำเลยอุทธรณ์ |
ศาลอุทธรณ์แผนกคดีเยาวชนและครอบครัวพิพากษาแก้เป็นว่า ให้จำเลยรับผิดชำระดอกเบี้ยของค่ารถยนต์ หมายเลขทะเบียน ชต 6512 ค่าแหวนเพชร ค่าอาวุธปืน และค่ารถยนต์จิ๊ป นับถัดจากวันฟ้อง (ฟ้องวันที่ 14 สิงหาคม 2556) จนกว่าจะชำระเสร็จ นอกจากที่แก้ให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น คืนค่าขึ้นศาลชั้นอุทธรณ์ 5,135 บาท แก่จำเลย ค่าฤชาธรรมเนียมชั้นอุทธรณ์นอกจากที่สั่งคืนให้เป็นพับ จำเลยฎีกา ศาลฎีกาแผนกคดีเยาวชนและครอบครัววินิจฉัยว่า ข้อเท็จจริงรับฟังได้ว่า โจทก์กับจำเลยจดทะเบียนสมรสกันเมื่อวันที่ 29 ตุลาคม 2551 ตามทะเบียนสมรส อาวุธปืนสั้น ขนาด .45 เครื่องหมายทะเบียน กท 54241039 เจ้าพนักงานออกใบอนุญาตให้มีและใช้อาวุธปืนแก่โจทก์ตามสำเนาใบอนุญาต รถยนต์ยี่ห้อฮอนด้า หมายเลขทะเบียน ชต 6512 กรุงเทพมหานคร มีชื่อโจทก์เป็นผู้ถือกรรมสิทธิ์ ตามสำเนารายการจดทะเบียน โจทก์กับจำเลยได้ทำบันทึกข้อตกลง ตามสำเนารายงานประจำวันเกี่ยวกับคดี มีปัญหาวินิจฉัยตามฎีกาของจำเลยว่า บันทึกข้อตกลงเป็นบันทึกข้อตกลงการหย่าโดยความยินยอมตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1514 หรือไม่ เห็นว่า ตามบันทึกรายงานประจำวันเกี่ยวกับคดีมีข้อความว่า โจทก์กับจำเลยเป็นสามีภริยาโดยชอบด้วยกฎหมาย ไม่ประสงค์อยู่กินกันต่อไปจึงได้ตกลงดังนี้ 2. ในเรื่องการหย่านั้น ฝ่ายหญิงจะดำเนินการฟ้องหย่าตามกฎหมายต่อไปโดยมีโจทก์ จำเลย พนักงานสอบสวน และเจ้าพนักงานตำรวจอีกนายหนึ่งลงลายมือชื่อไว้ บันทึกดังกล่าวเป็นข้อตกลงระหว่างโจทก์และจำเลยโดยตรง มีข้อความชัดเจนว่า ทั้งสองไม่ประสงค์อยู่กินกันต่อไป คือต้องการแยกทางกันหรือหย่ากันนั่นเอง แม้มีข้อความในข้อ 2 ว่า ฝ่ายหญิง คือโจทก์จะไปดำเนินการฟ้องหย่าตามกฎหมายต่อไปก็เป็นความเข้าใจของทั้งสองฝ่ายว่าจะต้องไปดำเนินการฟ้องหย่าต่อกันเท่านั้น ข้อความดังกล่าวมิได้ลบล้างเจตนาที่แท้จริงของทั้งโจทก์และจำเลยที่ไม่ประสงค์จะอยู่กินกันต่อไปแต่อย่างใด ดังนั้น บันทึกดังกล่าวจึงถือได้ว่าเป็นข้อตกลงที่โจทก์จำเลยประสงค์จะหย่ากัน ตาม มาตรา 1514 ส่วนที่จำเลยอ้างว่าบันทึกดังกล่าวมีพยานลงชื่อไม่ครบสองคนนั้น ข้อเท็จจริงได้ความว่า พนักงานสอบสวนและเจ้าพนักงานตำรวจที่ลงลายมือชื่อไว้ในฐานะผู้เขียนบันทึก เป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติตามหน้าที่ ได้รับรู้ข้อตกลงระหว่างโจทก์จำเลยตามข้อความในบันทึกดังกล่าว ถือได้ว่าคนทั้งสองได้ลงลายมือชื่อไว้ในฐานะพยานผู้ทำบันทึกแล้วจึงถูกต้องครบถ้วนตามกฎหมาย ฎีกาของจำเลยข้อนี้ฟังไม่ขึ้น พิพากษายืน ค่าฤชาธรรมเนียมชั้นฎีกาให้เป็นพับ |
บทความที่น่าสนใจ |
-การด่าตำรวจจราจรว่ารับสินบนจะมีผิดความหรือไม่ -ส่งมอบโฉนดให้เจ้าหนี้ยึดถือไว้เป็นหลักประกันต่อมาไปแจ้งความว่าโฉนดหายมีความผิดต้องโทษจำคุก -การปลอมเป็นเอกสารจำเป็นต้องมีเอกสารที่แท้จริงหรือไม -การลงลายมือแทนกันเป็นความผิดฐานปลอมเอกสาร -เมื่อครอบครองปรปักษ์ที่ดินแล้ว ต่อมาเกิดที่งอกใครเป็นเจ้าของที่งอกนั้น -ขายฝากที่ดินต่อมาผู้ขายได้ปลูกสร้างบ้านบนที่ดิน แต่ไม่ได้ไถ่ภายในกำหนดบ้านเป็นของใคร -ไม่ได้เข้าร่วมในการแบ่งกรรมสิทธิ์รวม -ปลูกต้นไม้ในทางสาธารณะสามารถฟ้องให้รื้อถอนออกไปได้ -การทำสัญญายอมในศาลโดยการครอบครองในป่าสงวน -เจ้าของรวมนำโฉนดที่ดินไปประหนี้เงินกู้ผลเป็นอย่างไร
|