สำนักงานกฎหมาย

นพนภัส

ทนายความเชียงใหม่

 

ฟ้องหย่าเพราะสามีหรือภริยามีชู้

การฟ้องหย่าเพราะสามีหรือภริยาชู้นั้น  เป็นเหตุแห่งการฟ้องหย่าตามกฎหมาย  ซึ่งได้บัญญัติไว้ในมาตรา  1516 (1) แห่งประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์  โดยบัญญัติว่า  “มาตรา 1516  เหตุฟ้องหย่ามีดังต่อไปนี้
(1) สามีหรือภริยาอุปการะเลี้ยงดูหรือยกย่องผู้อื่นฉันภริยาหรือสามี เป็นชู้หรือมีชู้ หรือร่วมประเวณีกับผู้อื่นเป็นอาจิณ อีกฝ่ายหนึ่งฟ้องหย่าได้
(2) สามีหรือภริยาประพฤติชั่ว ไม่ว่าความประพฤติชั่วนั้นจะเป็นความผิดอาญาหรือไม่ ถ้าเป็นเหตุให้อีกฝ่ายหนึ่ง
(ก) ได้รับความอับอายขายหน้าอย่างร้ายแรง
(ข) ได้รับความดูถูกเกลียดชังเพราะเหตุที่คงเป็นสามีหรือภริยาของฝ่ายที่ประพฤติชั่วอยู่ต่อไป หรือ
(ค) ได้รับความเสียหายหรือเดือดร้อนเกินควร ในเมื่อเอาสภาพ ฐานะและความเป็นอยู่ร่วมกันฉันสามีภริยามาคำนึงประกอบ
อีกฝ่ายหนึ่งนั้นฟ้องหย่าได้
(3) สามีหรือภริยาทำร้าย หรือทรมานร่างกายหรือจิตใจ หรือหมิ่นประมาทหรือเหยียดหยามอีกฝ่ายหนึ่งหรือบุพการีของอีกฝ่ายหนึ่ง  ทั้งนี้ ถ้าเป็นการร้ายแรง อีกฝ่ายหนึ่งนั้นฟ้องหย่าได้
(4) สามีหรือภริยาจงใจละทิ้งร้างอีกฝ่ายหนึ่งไปเกินหนึ่งปี อีกฝ่ายหนึ่งนั้นฟ้องหย่าได้
(4/1) สามีหรือภริยาต้องคำพิพากษาถึงที่สุดให้จำคุก และได้ถูกจำคุกเกินหนึ่งปีในความผิดที่อีกฝ่ายหนึ่งมิได้มีส่วนก่อให้เกิดการกระทำความผิดหรือยินยอมหรือรู้เห็นเป็นใจในการกระทำความผิดนั้นด้วย และการเป็นสามีภริยากันต่อไปจะเป็นเหตุให้อีกฝ่ายหนึ่งได้รับความเสียหายหรือเดือนร้อนเกินควร อีกฝ่ายหนึ่งนั้นฟ้องหย่าได้
(4/2) สามีและภริยาสมัครใจแยกกันอยู่เพราะเหตุที่ไม่อาจอยู่ร่วมกันฉันสามีภริยาได้โดยปกติสุขตลอดมาเกินสามปี หรือแยกกันอยู่ตามคำสั่งของศาลเป็นเวลาเกินสามปี ฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งฟ้องหย่าได้
(5) สามีหรือภริยาถูกศาลสั่งให้เป็นคนสาบสูญ หรือไปจากภูมิลำเนาหรือถิ่นที่อยู่เป็นเวลาเกินสามปีโดยไม่มีใครทราบแน่ว่าเป็นตายร้ายดีอย่างไร อีกฝ่ายหนึ่งฟ้องหย่าได้
(6) สามีหรือภริยาไม่ให้ความช่วยเหลืออุปการะเลี้ยงดูอีกฝ่ายหนึ่งตามสมควรหรือทำการเป็นปฏิปักษ์ต่อการที่เป็นสามีหรือภริยากันอย่างร้ายแรง  ทั้งนี้ ถ้าการกระทำนั้นถึงขนาดที่อีกฝ่ายหนึ่งเดือดร้อนเกินควรในเมื่อเอาสภาพ ฐานะและความเป็นอยู่ร่วมกันฉันสามีภริยามาคำนึงประกอบ อีกฝ่ายหนึ่งนั้นฟ้องหย่าได้
(7) สามีหรือภริยาวิกลจริตตลอดมาเกินสามปี และความวิกลจริตนั้นมีลักษณะยากจะหายได้ กับทั้งความวิกลจริตถึงขนาดที่จะทนอยู่ร่วมกันฉันสามีภริยาต่อไปไม่ได้ อีกฝ่ายหนึ่งฟ้องหย่าได้
(8) สามีหรือภริยาผิดทัณฑ์บนที่ทำให้ไว้เป็นหนังสือในเรื่องความประพฤติ อีกฝ่ายหนึ่งฟ้องหย่าได้
(9) สามีหรือภริยาเป็นโรคติดต่ออย่างร้ายแรงอันอาจเป็นภัยแก่อีกฝ่ายหนึ่งและโรคมีลักษณะเรื้อรังไม่มีทางที่จะหายได้ อีกฝ่ายหนึ่งนั้นฟ้องหย่าได้
(10) สามีหรือภริยามีสภาพแห่งกายทำให้สามีหรือภริยานั้นไม่อาจร่วมประเวณีได้ตลอดกาล อีกฝ่ายหนึ่งฟ้องหย่าได้”

            จากบทกฎหมายดังกล่าวจะเห็นได้ว่าเหตุแห่งการฟ้องหย่ามีทั้งหมด  10  เหตุใหญ่ๆ  ด้วยกัน  แต่ในวันนี้  สำนักงานจะอธิบายเหตุแห่งการฟ้องหย่าในเหตุที่  1  หรือ  ตามมาตรา  1515(1)  ซึ่งตามกฎหมายได้กำหนดเอาไว้ว่า  “สามีหรือภริยาอุปการะเลี้ยงดูหรือยกย่องผู้อื่นฉันภริยาหรือสามี เป็นชู้หรือมีชู้ หรือร่วมประเวณีกับผู้อื่นเป็นอาจิณ อีกฝ่ายหนึ่งฟ้องหย่าได้” เราจะมาดูองค์ประกอบของกฎหมายเป็นส่วนๆ  โดยเริ่มจากคำว่า  สามีหรือภริยา   นั้น  ตามกฎหมายแล้วสามีหรือภริยาจะต้องมีการจดทะเบียนสมรสโดยถูกต้องมากฎหมายเสียก่อนจึงจะเกิดสิทธิตามกฎหมายในมาตรา  1516  ซึ่งหมายความว่า  เมื่อมีการจดทะเบียนสมรส  แต่ไม่ได้จัดพิธีทางศาสนา  ก็ยังถือว่าเป็นการสมรสที่ถูกต้องตามกฎหมาย 
 
 

ยกตัวอย่างเช่น  เมื่อวันที่  1  มกราคม  2560  นาย ก  ได้จดทะเบียนสมรสกันกับนางสาว ข  แต่นาย ก และนาง ข ไม่ได้จัดพิธีแต่งงานทางศาสนา  จนกระทั่ง  เมื่อวันที่  30  ธันวาคม  2562  นาย  ก  ได้ทำชู้กับนางสาว ง  นาง ข  จับได้ว่า  นาย  ก  มีชู้  นาง ข  สามารถฟ้องหย่า  นาย  ก  ได้  เป็นต้น  ในทางกลับกัน  หากไม่ได้จดทะเบียนสมรส  แม้จะมีการจัดพิธีทางศาสนาแล้วก็ตาม  ก็ไม่ถือว่ามีการสมรสโดยถูกต้องตามกฎหมายไม่มีสิทธิตามมาตรา 1516   ยกตัวอย่างเช่น  เมื่อวันที่  14  กุมภาพันธ์  2560  นาย  เอ  จัดพิธีแต่งานกับ  นางสาว  บี  โดยนาย  เอ  สัญญากับนางสาว  บี  ว่า  ในอีก  3  อาทิตย์  จะไปจนทะเบียนสมรสกับนางสาว  บี  ปรากฏว่า  เมื่อครบกำหนดนาย  เอ  ไม่ยอมไปจดทะเบียนสมรสกับนางสาว  บี  และต่อมา  เมื่อวันที่  1  มกราคม  2562  นางสาว  บี  จับได้ว่า  นาย  เอ  มีชู้เป็นนางสาวซี  เช่นนี้  นางสาวบีจะฟ้องหย่านาย  เอ  ไม่ได้  รวมถึงจะเรียกร้องค่าเสียหายจากนางสาวซี  ก็ไม่ได้เช่นกัน  เป็นต้น  ดังนั้น  การจะเกิดสิทธิในการฟ้องหย่าได้จะต้องมีการจดทะเบียนสมรสเสียก่อน
ตามกฎหมายมาตรา  1516(1)  คำต่อไปคำว่า  “อุปการะเลี้ยงดูหรือยกย่องผู้อื่นฉันภริยาหรือสามี  เป็นชู้หรือมีชู้ หรือร่วมประเวณีกับผู้อื่นเป็นอาจิณ”  นั้น  มีความหมายว่า  ยกย่องผู้หญิงคนอื่นหรือผู้ชายคนอื่น  เป็นภริยาหรือสามีของตนเองอีกคนหนึ่ง  โดยมีการแสดงออกให้บุคคลทั่วไปได้รับทราบว่าผู้หญิงหรือผู้ชายอื่น เป็นภริยาหรือสามีของตนเอง  ยกตัวอย่างเช่น  (1)ชายหรือหญิงอื่นนั้นมาอยู่บ้านด้วย  จนมีบุตรร่วมกัน  นอกจากนั้นยังให้ใช้นามสกุล หรือ(2)แม้แต่ไม่เคยพาออกสังคมหรือแนะนำให้บุคคลอื่นได้รับทราบว่าเป็นภริยา  แต่ได้ไปไหนมาไหนด้วยกันอย่างเปิดเผยในหมู่บ้านที่เป็นชุมชนในเวลากลางคืน  ไปรับเมื่อมีธุระหรือซื้ออาหารด้วยกัน  เป็นต้น 
ตัวอย่างคำพิพากษาของศาลฎีกาดังนี้  ตัวอย่างที่  1  คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2561/2561  โจทก์นำ จ.มาอยู่ในบ้านโจทก์และอยู่กินด้วยกันฉันสามีภรรยาจนมีบุตรด้วยกัน 1 คน โดยโจทก์ให้ใช้นามสกุลของโจทก์ พฤติการณ์ดังกล่าวถือได้ว่าโจทก์อุปการะเลี้ยงดูหรือยกย่องหญิงอื่นฉันภรรยา เมื่อไม่ปรากฏว่าจำเลยได้ให้อภัยในการกระทำของโจทก์ จำเลยจึงมีเหตุฟ้องหย่าโจทก์ได้ตาม ป.พ.พ. มาตรา1516 (1)
ตัวอย่างที่  2  คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 6516/2552แม้จำเลยที่ 1 จะไม่เคยพาจำเลยที่ 2 ออกงานสังคม หรือแนะนำให้บุคคลอื่นรู้จักในฐานะภริยาแต่การที่จำเลยทั้งสองไปไหนมาไหนด้วยกันอย่างเปิดเผยอยู่ในบ้านซึ่งปลูกสร้างในแหล่งชุมชนด้วยกันในเวลากลางคืน ขับรถรับส่งเมื่อไปทำกิจธุระหรือซื้ออาหารด้วยกัน ย่อมบ่งชี้ว่าจำเลยทั้งสองมีความสัมพันธ์ฉันชู้สาวและเอื้ออาทรดูแลเอาใจใส่ต่อกัน แสดงว่าจำเลยที่ 1 ยกย่องจำเลยที่ 2 ฉันภริยาอันเป็นเหตุหย่าตาม ป.พ.พ. มาตรา 1516 (1) แล้ว และโจทก์ยังมีสิทธิเรียกค่าทดแทนจากจำเลยที่ 2 ที่แสดงตนโดยเปิดเผยว่ามีความสัมพันธ์ฉันชู้สาวกับจำเลยที่ 1 ซึ่งเป็นสามีโจทก์ให้ร่วมรับผิดกับจำเลยที่ 1 ต่อโจทก์ตาม ป.พ.พ. มาตรา 1523 วรรคหนึ่ง ได้อีกด้วย
หลักฐานในการฟ้องหย่าในเบื้องต้นมีดังนี้
1.ใบทะเบียนสมรส
2.หลักฐานการโอนเงินอุปการะเลี้ยงดูชู้
3.หลักฐานการสนทนา(ถ้ามี)
4.ภาพถ่ายความสัมพันธ์ระหว่างคู่สมรสกับชู้
5.หลักฐานการรับรองบุตรหรือใบสูติบัตรบุตรระหว่างคู่สมรสกับชู้(ถ้ามี)
6.หลักฐานการให้ใช้ชื่อสกุล(ถ้ามี)
7.ชื่อและนามสกุลของชู้
8.อื่นๆ ( ตามข้อเท็จจริงเป็นกรณีๆไป)

บทความอ่านต่อเนื่อง
นอกจาก  คู่สมรสสามารถฟ้องหย่าได้  ตามมาตรา  1516(1)  แล้ว  คู่สมรส ยังสามารถฟ้องชายหรือหญิงที่มาเป็นชู้ให้ชดใช้ค่าเสียหายได้อีกด้วย  อ่านบทความต่อไป 

ฟ้องเรียกค่าเสียหายจากชู้ (คลิก)