สำนักงานกฎหมาย

นพนภัส

ทนายความเชียงใหม่

เจ้าของรวมนำโฉนดที่ดินไปประหนี้เงินกู้ผลทางกฎหมายเป็นอย่างไร

การที่เจ้าของรวมคนหนึ่งนำโฉนดที่ดินไปประกันหนี้เงินกู้โดยไม่ได้รับความยินยอมจากเจ้าของรวมคนอื่นๆก่อน  ย่อมทำให้ได้รับความเสียหาย  หากว่าปรากฏว่า  เจ้าของรวมคนอื่นๆ  ต้องการนำโฉนดที่ดินไปขายในส่วนของตนเอง  แต่ไม่สามารถนำโฉนดที่ดินมาจดทะเบียนขายได้ เจ้าของรวมคนอื่นนั้นๆ  มีสิทธิที่จะฟ้องคดีต่อศาลเพื่อให้ศาลมีคำสั่งให้เจ้าของรวมที่นำโฉนดที่ดินไปวางเป็นประกันหนี้เงินกู้มาส่งมอบให้แก่เจ้าของรวมคนอื่นๆ  ได้ ไม่ใช่กรณี  สภาพแห่งหนี้ไม่เปิดช่องให้กระทำได้ 

          ดังนั้น  สรุปได้ว่า  เจ้าของรวมคนที่เอาโฉนดที่ดินไปวางเป็นประกันต้องนำเงินไปไถ่ถอนที่ดินกลับมา  เท่านั้น 

คำวินิจฉัยของศาลฎีกาที่เกี่ยวข้อง

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 4920/2547
โจทก์ จำเลย และ ร. เป็นเจ้าของรวมในที่ดิน แต่ละคนย่อมมีสิทธิใช้สอยที่ดินดังกล่าวได้ แต่ต้องไม่ขัดต่อสิทธิแห่งเจ้าของรวมคนอื่น ๆ และเจ้าของรวมคนหนึ่ง ๆ จะจำหน่ายที่ดินดังกล่าวส่วนของตนก็ได้ การที่จำเลยซึ่งเป็นผู้เก็บรักษาโฉนดที่ดินไว้นำโฉนดที่ดินไปให้บุคคลอื่นยึดถือไว้เป็นประกันหนี้เงินกู้ เป็นเหตุให้โจทก์ไม่สามารถจดทะเบียนขายที่ดินเฉพาะส่วนของโจทก์ได้ ย่อมขัดต่อสิทธิของโจทก์ จำเลยมีหน้าที่ต้องดำเนินการนำโฉนดที่ดินคืนมาเพื่อส่งมอบแก่โจทก์ กรณีมิใช่สภาพแห่งหนี้ไม่เปิดช่องให้บังคับชำระหนี้ได้
ตามบทบัญญัติแห่ง ป.พ.พ. มาตรา 213 วรรคสอง ศาลจะสั่งให้ถือเอาตามคำพิพากษาแทนการแสดงเจตนาของลูกหนี้ได้เฉพาะกรณีที่วัตถุแห่งหนี้เป็นอันให้กระทำนิติกรรมอย่างใดอย่างหนึ่งเท่านั้น คดีนี้โจทก์ฟ้องบังคับให้จำเลยส่งมอบโฉนดที่ดิน ศาลจึงไม่อาจสั่งให้ถือเอาตามคำพิพากษาแทนการแสดงเจตนาของจำเลยได้
___________________________

โจทก์ฟ้องขอให้บังคับจำเลยส่งมอบโฉนดที่ดินเลขที่ ๒๘๒๑๕ ตำบลช้างม่อย อำเภอเมืองเชียงใหม่ จังหวัดเชียงใหม่ แก่โจทก์
จำเลยให้การขอให้ยกฟ้อง
ศาลชั้นต้นเห็นว่าข้อเท็จจริงตามคำฟ้อง คำให้การ และที่คู่ความแถลงรับกัน พอวินิจฉัยคดีได้แล้ว จึงให้งดสืบพยานโจทก์และจำเลย

          ดังนั้น  สรุปได้ว่า  เจ้าของรวมคนที่เอาโฉนดที่ดินไปวางเป็นประกันต้องนำเงินไปไถ่ถอนที่ดินกลับมา  เท่านั้น 

คำวินิจฉัยของศาลฎีกาที่เกี่ยวข้อง

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 4920/2547
โจทก์ จำเลย และ ร. เป็นเจ้าของรวมในที่ดิน แต่ละคนย่อมมีสิทธิใช้สอยที่ดินดังกล่าวได้ แต่ต้องไม่ขัดต่อสิทธิแห่งเจ้าของรวมคนอื่น ๆ และเจ้าของรวมคนหนึ่ง ๆ จะจำหน่ายที่ดินดังกล่าวส่วนของตนก็ได้ การที่จำเลยซึ่งเป็นผู้เก็บรักษาโฉนดที่ดินไว้นำโฉนดที่ดินไปให้บุคคลอื่นยึดถือไว้เป็นประกันหนี้เงินกู้ เป็นเหตุให้โจทก์ไม่สามารถจดทะเบียนขายที่ดินเฉพาะส่วนของโจทก์ได้ ย่อมขัดต่อสิทธิของโจทก์ จำเลยมีหน้าที่ต้องดำเนินการนำโฉนดที่ดินคืนมาเพื่อส่งมอบแก่โจทก์ กรณีมิใช่สภาพแห่งหนี้ไม่เปิดช่องให้บังคับชำระหนี้ได้
ตามบทบัญญัติแห่ง ป.พ.พ. มาตรา 213 วรรคสอง ศาลจะสั่งให้ถือเอาตามคำพิพากษาแทนการแสดงเจตนาของลูกหนี้ได้เฉพาะกรณีที่วัตถุแห่งหนี้เป็นอันให้กระทำนิติกรรมอย่างใดอย่างหนึ่งเท่านั้น คดีนี้โจทก์ฟ้องบังคับให้จำเลยส่งมอบโฉนดที่ดิน ศาลจึงไม่อาจสั่งให้ถือเอาตามคำพิพากษาแทนการแสดงเจตนาของจำเลยได้
___________________________

โจทก์ฟ้องขอให้บังคับจำเลยส่งมอบโฉนดที่ดินเลขที่ ๒๘๒๑๕ ตำบลช้างม่อย อำเภอเมืองเชียงใหม่ จังหวัดเชียงใหม่ แก่โจทก์
จำเลยให้การขอให้ยกฟ้อง
ศาลชั้นต้นเห็นว่าข้อเท็จจริงตามคำฟ้อง คำให้การ และที่คู่ความแถลงรับกัน พอวินิจฉัยคดีได้แล้ว จึงให้งดสืบพยานโจทก์และจำเลย

ศาลชั้นต้นพิจารณาแล้ว พิพากษาให้จำเลยส่งมอบโฉนดที่ดินเลขที่ ๒๘๒๑๕ ตำบลช้างม่อย อำเภอเมืองเชียงใหม่ จังหวัดเชียงใหม่ แก่โจทก์ ค่าฤชาธรรมเนียมให้เป็นพับ
จำเลยอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์ภาค ๕ พิพากษายืน ค่าฤชาธรรมเนียมชั้นอุทธรณ์ให้เป็นพับ
จำเลยฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า ข้อเท็จจริงรับฟังได้ว่า โจทก์ จำเลย และนางสาวเรณู มานะจิรังพรกุล เป็นเจ้าของรวมในที่ดินพิพาท จำเลยเป็นเป็นผู้เก็บรักษาโฉนดที่ดินดังกล่าวไว้ ต่อมาจำเลยกู้ยืมเงินนายประวิทย์ ตัณมุขยกุล และมอบโฉนดที่ดินดังกล่าวให้นายประวิทย์ยึดถือไว้เป็นประกันการชำระหนี้ หลังจากนั้นโจทก์จะจดทะเบียนขายที่ดินดังกล่าวเฉพาะส่วนของโจทก์แก่นางสาวเรณู จึงไปขอโฉนดที่ดินจากจำเลยเพื่อนำไปดำเนินการจดทะเบียนต่อพนักงานเจ้าหน้าที่ แต่จำเลยไม่ส่งมอบโฉนดที่ดินแก่โจทก์โดยอ้างว่าโฉนดที่ดินมิได้อยู่ในความครอบครองของจำเลย มีปัญหาที่ต้องวินิจฉัยตามฎีกาของจำเลยว่า จำเลยต้องส่งมอบโฉนดที่ดินดังกล่าวแก่โจทก์หรือไม่ เห็นว่า โจทก์ จำเลย และนางสาวเรณูเป็นเจ้าของรวมในที่ดินพิพาท แต่ละคนย่อมมีสิทธิใช้สอยที่ดินดังกล่าวได้ แต่ต้องไม่ขัดต่อสิทธิแห่งเจ้าของรวมคนอื่น ๆ และเจ้าของรวมคนหนึ่ง ๆ จะจำหน่ายที่ดินดังกล่าวเฉพาะส่วนของตนก็ได้ การที่จำเลยนำโฉนดที่ดินไปให้บุคคลอื่นยึดถือไว้เป็นประกันการชำระหนี้เงินกู้ เป็นเหตุให้โจทก์ไม่สามารถจดทะเบียนขายที่ดินตามโฉนดที่ดินดังกล่าวเฉพาะส่วนของโจทก์ได้ ย่อมขัดต่อสิทธิของโจทก์ จำเลยต้องส่งมอบโฉนดที่ดินดังกล่าวแก่โจทก์ หากโฉนดที่ดินอยู่ในความครอบครองของบุคคลอื่น จำเลยย่อมต้องมีหน้าที่ดำเนินการนำโฉนดที่ดินคืนมาเพื่อส่งมอบแก่โจทก์จนได้ กรณีมิใช่สภาพแห่งหนี้ไม่เปิดช่องให้บังคับชำระหนี้ได้
ส่วนที่จำเลยอ้างว่าในการจดทะเบียนโอนกรรมสิทธิ์เฉพาะส่วนให้แก่นางสาวเรณู โจทก์สามารถขอให้ศาลสั่งให้ถือเอาคำพิพากษาแทนการแสดงเจตนาของจำเลยได้ โดยโจทก์ไม่ต้องขอให้จำเลยส่งมอบโฉนดที่ดินแก่โจทก์นั้น เห็นว่า ตามบทบัญญัติแห่ง ป.พ.พ. มาตรา ๒๑๓ วรรคสอง ศาลจะสั่งให้ถือเอาตามคำพิพากษาแทนการแสดงเจตนาของลูกหนี้ได้ก็เฉพาะกรณีที่วัตถุแห่งหนี้เป็นอันให้กระทำนิติกรรมอย่างใดอย่างหนึ่งเท่านั้น คดีนี้โจทก์ฟ้องบังคับให้จำเลยส่งมอบโฉนดที่ดิน ศาลจึงไม่อาจสั่งให้ถือเอาตามคำพิพากษาแทนการแสดงเจตนาของจำเลยได้ ที่ศาลล่างทั้งสองมีคำพิพากษาให้จำเลยส่งมอบโฉนดที่ดินแก่โจทก์นั้น ศาลฎีกาเห็นพ้องด้วย
พิพากษายืน ค่าฤชาธรรมเนียมชั้นฎีกาให้เป็นพับ.