หลักกฎหมายที่เกี่ยวข้อง
ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา ๑๓๖๔ การแบ่งทรัพย์สินพึงกระทำโดยแบ่งทรัพย์สินนั้นเองระหว่างเจ้าของรวม หรือโดยขายทรัพย์สินแล้วเอาเงินที่ขายได้มาแบ่งกัน
วรรคสอง ถ้าเจ้าของรวมไม่ตกลงกันว่าจะแบ่งทรัพย์สินอย่างไรไซร์ เมื่อเจ้าของรวมคนหนึ่งคนใดขอ ศาลอาจสั่งให้เอาทรัพย์สินนั้นออกแบ่ง ถ้าส่วนที่แบ่งให้ไม่เท่ากันไซร์ จะสั่งให้ทดแทนกันเป็นเงินก็ได้ ถ้าการแบ่งเช่นว่านี้ไม่อาจทำได้หรือจะเสียหายมากนักก็ดี ศาลจะสั่งให้ขายโดยประมูลราคากันระหว่างเจ้าของรวมหรือขายทอดตลาดก็ได้
การที่มีทรัพย์สินอันมีกรรมสิทธิ์รวมอยู่นั้น หากว่าว่าเจ้าของรวมต้องการแบ่งปันทรัพย์สินอันเป็นกรรมสิทธิ์รวมแล้ว จะต้องดำเนินการแบ่งปันโดยต้องเกิดจากการกระทำของเจ้าของกรรมสิทธิ์ครบทุกคน หากไม่ได้เกิดจากการกระทำหรือแสดงเจตนาของเจ้าของกรรมสิทธิ์ทุกคนแล้ว การแบ่งในคราวนั้นก็เป็นการแบ่งกรรมสิทธิ์รวมที่ไม่ถูกต้องตามกฎหมาย
คำพิพากษาที่เกี่ยวข้อง
ตัวอย่างที่ ๑ คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 6667/2558 คำพิพากษาของศาลที่ให้จำเลยทั้งห้าแบ่งทรัพย์มรดกแก่โจทก์ผู้เป็นทายาทด้วยกันเป็นเรื่องที่โจทก์กับจำเลยทั้งห้าในฐานะทายาทและเจ้าของรวมทุกคนพึงแบ่งทรัพย์สินนั้นเองระหว่างเจ้าของรวมด้วยกัน หรือโดยขายทรัพย์สินนั้นแล้วเอาเงินที่ขายได้แบ่งกัน ตาม ป.พ.พ. มาตรา 1364 วรรคหนึ่ง แต่เมื่อยังไม่มีการดำเนินการดังกล่าว ลำพังเพียงโจทก์เจรจากับจำเลยที่ 5 ซึ่งเป็นทายาทผู้มีสิทธิได้รับส่วนแบ่งคนหนึ่งโดยไม่ปรากฏว่าจำเลยที่ 5 ได้รับมอบหมายจากทายาทอื่นให้เป็นตัวแทนเจรจากับโจทก์ จึงรับฟังไม่ได้ว่าเจ้าของรวมไม่อาจตกลงแบ่งทรัพย์สินกันได้อันเป็นเหตุยึดทรัพย์มรดกมาขายทอดตลาด ตาม ป.พ.พ. มาตรา 1364 วรรคสอง เมื่อถือไม่ได้ว่าการบังคับตามคำพิพากษาของโจทก์เป็นไปตาม ลำดับขั้นตอนการแบ่งทรัพย์สินจึงต้องเพิกถอนการยึดทรัพย์มรดกเสีย
ข้อเท็จจริงในคดีดังกล่าว
คดีสืบเนื่องมาจากศาลชั้นต้นพิพากษาให้จำเลยทั้งห้าร่วมกันแบ่งทรัพย์มรดกของนางนิภาให้แก่ โจทก์ 1 ใน 7 ส่วน ของรายการทรัพย์สินตามที่ระบุไว้ในคำพิพากษาศาลชั้นต้นกับให้จำเลยทั้งห้าใช้ค่าฤชาธรรมเนียมแทนโจทก์ โดยกำหนดค่าทนายความ 50,000 บาท คำขออื่นนอกจากนี้ให้ยก ศาลอุทธรณ์ พิพากษายืน ค่าฤชาธรรมเนียมชั้นอุทธรณ์ให้เป็นพับ ศาลฎีกาพิพากษาแก้เป็นว่า ทรัพย์มรดกส่วนที่เป็นหุ้นบริษัทง่วนหลีจั่น (1984) จำกัด เป็นทรัพย์สินของนางนิภาที่ตกเป็นมรดก 25,000 หุ้น หุ้นบริษัทสยามผลิตภัณฑ์กระดาษ จำกัด เป็นทรัพย์สินของนางนิภาที่ตกเป็นมรดก 300 หุ้น ให้จำเลยที่ 2 ที่ 4 และที่ 5 ร่วมกันจ่ายค่าทนายความชั้นฎีกาให้แก่โจทก์ 6,000 บาท นอกจากที่แก้คงให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ โจทก์ขอให้ออกคำบังคับและหมายบังคับคดีเมื่อวันที่ 27 กันยายน 2553 ศาลชั้นต้นออกหมายบังคับคดีตามคำขอของโจทก์ลงวันที่ 6 ตุลาคม 2553 |